เรื่องล่าสุด

7 เรื่องในชีวิตประจำวันที่คนไทยมักเข้าใจผิดกันเป็นส่วนใหญ่

ในชีวิตประจำวันเรา มีเรื่องราวอยู่รอบตัวมากมาย บางเรื่องอาจจะเป็นสิ่งที่เราเข้าใจถูกต้องแล้ว แต่บางเรื่องอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นยังไง จนบางครั้งทำให้เราไม่มั่นใจ วันนี้ลองไปดูกันว่า 7 สิ่งเหล่านี้คุณทราบมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่ทราบก็ทำความเข้าใจใหม่กันดีกว่า ไปดูกันเลย

บทความนี้เป็นบทความที่ meepanda.com เขียนขึ้นเอง ถือเป็นลิขสิทธิ์ของเว็ปไซต์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทำซ้ำ ทั้งหมด ติดลิงค์กลับ หรือบางส่วนไม่ว่ารูปแบบหรือสิ่งอื่นใด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเว็ปไซต์ หากพบเห็นจะดำเนินคดีตามกฏหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

dengan-teknologi-baru-pbsi-tingkatkan-mutu-atlet-UtdZgw7PxY

ภาพจาก : sports.okezone.com

7. ลูกขนไก่ ไม่ได้ทำมาจากขนไก่

ลูกขนไก่ที่เราคุ้นเคย อันที่จริงแล้วมันไม่ได้ทำมาจากขนไก่แต่ทำมาจากขนเป็ดหรือขนห่าน ในหนึ่งลูกจะต้องมีขน 16 เส้น ซึ่งจะต้องเป็นขนที่มาจากปีกข้างเดียวกันเพื่อการหมุนของลูกที่ดี และขนที่เรียงบนปีกเป็ดแต่ละข้างก็จะมีเกรดต่างกันด้วย โดยปีก 1 ข้างจะให้ขนสำหรับทำลูกเกรด A ได้แต่ 3 ขนเท่านั้น ดังนั้นลูกเกรด A จะใช้ขน 16 เส้น หรือต้องใช้ขนจากเป็ด 5 ตัวกว่าๆนั่นเอง

 

Tigerbalm

ภาพจาก : en.wikipedia.org

6. ยาหม่อง ยาครอบจักรวาล

ไม่ว่าจะเป็นอะไร โดนอะไรมา เป็นแผลถลอก สิ่งหนึ่งที่คนมักปฏิบัติตามๆกันมาก็คือการเอายาหม่องมาทา จริงๆแล้วการที่ร่างกายโดนอะไรกระแทกหรือมีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ จะทำให้เกิดการฟกช้ำ หลอดเลือดแตกภายใน เลือดจะถูกส่งไปเลี้ยงยังจุดบาดเจ็บอย่างมากทำให้ปวดและบวม วิธีการรักษาหรือปฐมพยาบาลที่ถูกต้องคือให้ประคบด้วยความเย็น เพื่อให้หลอดเลือดหดตัว จุดที่บาดเจ็บก็จะไม่ปวดบวม แต่การเอายาหม่องไปทาเป็นการให้ความร้อน หลอดเลือดจะขยายและเลือดไปเลี้ยงยังจุดบาดเจ็บมากขึ้นทำให้ปวดและบวมมากกว่าเดิม ดังนั้นตามหลักการจริงๆแล้วควรจะประคบเย็นก่อนตามความเหมาะสมในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเพื่อไม่ให้ปวดบวม หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงจึงค่อยประคบร้อนเพื่อให้เลือดไหลไปรักษา

 

image

ภาพจาก : irishtimes

5. การวิ่งเร็วๆ เหงื่อออกเยอะๆ ไม่ได้หมายความว่าเบิร์นไขมันได้ดี

การวิ่งเร็วๆเพื่อหวังจะเบิร์นไขมันเป็นเรื่องที่ผิด เพราะการวิ่งเร็วๆร่ายกายจะต้องการพลังงานอย่างรวดเร็ว จึงต้องใช้พลังงานจากน้ำตาลที่เก็บไว้ในกล้ามเนื้อ ซึ่งการใช้พลังงานแบบนี้จะได้มารวดเร็วและหมดเร็วเช่นกัน ก่อให้เกิดกรดชนิดหนึ่งในกล้ามเนื้อชื่อว่ากรดแลคติก ซึ่งกรดนี้จะทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้าและวิ่งต่อไปไม่ได้นั่นเอง การวิ่งที่สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีก็คือการวิ่งด้วยระดับปานกลาง นานเกิน 20 นาทีขึ้นไป เพราะในช่วง 20 นาทีแรกร่างกายจะใช้พลังงานจากน้ำตาล และหลังจาก 20 นาทีจะเป็นการใช้พลังงานจากไขมัน คุณสามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่ healthiie

 

rajasthani-roti-10

ภาพจาก : sybaritica.me

4. โรตีไม่ใช่ขนม

คนไทยมักจะคุ้นเคยว่าโรตีเป็นขนมหวานอันแสนอร่อย มีทั้งใส่กล้วย ใส่ไข่ หรือมะตะบะ ซึ่งเราก็เห็นโรตีในรูปแบบนั้นมาตั้งแต่เกิด อันที่จริงแล้วโรตีจะใช้ทานกับอาหารคาวหรือแกง เช่นแกงมัสมั่นไก่ แกงกะหรี่ไก่ เป็นต้น โดยจะใช้ทอดเป็นแผ่นแล้วตัดเป็นชิ้นๆ จิ้มทานกับแกงที่กล่าวมานั่นเอง

 

wall-outlet

ภาพจาก : gajitz.com

3. ปลั๊กสามตา สองตา

ปลั๊กสามตาไม่ได้มีเอาไว้เพื่อให้มันสวมใส่ได้แน่น แต่ขาปลั้กอันที่ 3 ที่อยู่ตรงกลางมีไว้เพื่อใช้เป็นสายดินในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าบางชนิด จำเป็นต้องต่อสายดินเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนหรืออันตรายจากไฟฟ้าช็อต ไฟรั่ว แต่ส่วนใหญ่แล้วในประเทศไทยของเรามักไม่เห็นความสำคัญ รวมถึงการทำเต้าเสียบ 3 รูที่ผนัง จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเต้าเสียบแบบ 2 รูค่อนข้างมาก เนื่องจากจะต้องทำสายดินและตัวอุปกรณ์เต้าเสียบแพงกว่า ทำให้ไม่นิยมทำกันเท่าไหร่นัก

 

monk_thaithesims3_com

ภาพจาก : thaithesims3.com

2. ที่นั่งสำรองสำหรับพระ เด็ก สตรีมีครรภ์

ที่นั่งสำรองสำหรับพระ เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือที่นั่งสำรองของใครก็ตาม จริงๆแล้วใครจะนั่งก็ได้ หากคุณเห็นมันว่างอยู่ก็สามารถเข้าไปนั่งได้ทันที แต่เมื่อไหร่ที่มี พระ เด็ก สตรีมีครรภ์ เข้ามาหาที่นั่งบริเวณนั้น คุณจะต้องรีบลุกให้เขาเข้ามานั่ง แต่คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าที่นั่งเหล่านั้นมีไว้สำหรับพระ เด็ก สตรีมีครรภ์ เท่านั้น ห้ามคนอื่นนั่น หากใครนั่งจะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีไปเลย

 

7445551_orig

ภาพจาก : imgbuddy.com

1. เปิดไฟผ่าหมากหรือไฟฉุกเฉินสามารถจอดได้ทุกที่

ไฟผ่าหมากหรือไฟฉุกเฉินตามเครื่องหมายสากลแล้ว เป็นไฟที่ทำไว้เพื่อใช้แสดงว่ารถคันนั้นกำลังเสียอยู่หรืออยู่ในสภาพที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ร่วมใช้ถนนคนอื่นได้ เช่น รถเสียอยู่ข้างทางและต้องจอดเอาไว้ หรือว่าคลัทช์เสียไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้แต่จำเป็นจะต้องไปให้ถึงที่หมายเพื่อจอดหรือซ่อมเป็นต้น สัญญาณเหล่านี้ถือว่าเป็นสัญญาณสากล เมื่อคนเห็นจะต้องชะลอรถและระวังให้มากขึ้น แต่ในปัจจุบันคนไทยที่มีรถยนต์ส่วนใหญ่จะใช้ไฟฉุกเฉินในทางที่ผิด เช่นเปิดไฟฉุกเฉินแล้วจอดได้ทุกทีบนถนน เช่นจอดในที่ห้ามจอด หรือข้ามแยกแล้วเปิดไฟฉุกเฉินจะปลอดภัย ความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิด เพราะเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง โดยเฉพาะการเปิดไฟข้ามแยกจะทำให้รถทีอยู่ด้านข้างมองไม่เห็นว่าคุณจะเลี้ยวหรือจะตรงกันแน่ เพราะไม่มีใครมีญาณทิพย์มองเห็นอีกฝั่งแน่ว่าคุณเปิดไฟฉุกเฉินสองข้างอยู่และอาจจะเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ เพราะฉะนั้นเลิกเถอะครับ

บทความนี้เป็นบทความที่ meepanda.com เขียนขึ้นเอง ถือเป็นลิขสิทธิ์ของเว็ปไซต์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทำซ้ำ ทั้งหมด ติดลิงค์กลับ หรือบางส่วนไม่ว่ารูปแบบหรือสิ่งอื่นใด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเว็ปไซต์ หากพบเห็นจะดำเนินคดีตามกฏหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

อ่านบทความล่าสุดของเรา >อาหาร 9 อย่าง ที่ผู้ขายอาจไม่เคยบอกคุณว่าจริงๆแล้วมันทำมาจากอะไร