เรื่องล่าสุด

9 สุดยอดเรื่อง “หลอน” บนเรือ (ภาคแรก)

หากเอ่ยถึง "เรือ" แล้ว หลายๆ คนคงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรือไททานิคเป็นอย่าแรก เรืออันเป็นตำนานรักแสนโรแมนติกระหว่างแจ็คกับโรส แต่ใครเล่าจะรู้ว่านอกเหนือจากไททานิคเรือที่ไม่มีวันจมสุดคลาสสิคที่สร้างจากเรื่องจริงแล้ว ยังคงมีเรื่องราวเกี่ยวกับเรืออีกมากมายที่เราไม่เคยรู้ เพียงแต่ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรือต่อไปนี้ไม่ได้โรแมนติกเสียแล้วน่ะสิ…

1.เรือไม้บรรทุกศพนอกชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น

    a99534_ghost-ships-wooden-boats-of-dead-bodies-wash-up-in-japan-AP-640x480

เรือไม้บรรทุกศพหลายลำถูกพบบริเวณชายฝั่งของประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งเรืออย่างน้อย 12 ลำ ดังกล่าวได้บรรทุกร่างที่กำลังเน่าเปื่อยของมนุษย์เป็นจำนวนมากถึง 22 ร่าง

โดยเรือขนสินค้าอันน่าขนหัวลุกลำแรกได้ถูกค้นพบในเดือนตุลาคม 2557 และหลังจากนั้นในเดือนพฤศจิกายนเรือขนศพก็ถูกพบเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ในขณะที่บทความนี้ถูกเขียนขึ้นก็ยังมีการค้นพบเรือดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้ เรือลำล่าสุดที่ถูกพบในบริเวณเกาะฮอนชูนั้นได้บรรทุกศพของมนุษย์มากถึง 4 ศพ ซึ่งต่างอยู่ในสภาพที่เน่าเปื่อยถึงขนาดที่สามารถมองเห็นโครงกระดูกได้

ว่ากันว่าเรือไม้บรรทุกศพข้างต้นเดินทางมาจากประเทศเกาหลีเหนือ เนื่องจากมีการค้นพบจดหมายที่เขียนในภาษาเกาหลีอยู่ในเรือพร้อมกับศพอีกสิบศพ ซึ่งเป็นเรือ 1 ใน 3 ลำที่ถูกพบลอยอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน โดยจดหมายฉบับดังกล่าวเขียนว่า “กองทัพประชาชนเกาหลี” ซึ่งเป็นชื่อกองกำลังป้องกันของประเทศเกาหลีเหนือนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบว่าเรือดังกล่าวถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด หลายคนเชื่อว่าเป็นเรือหาปลาที่พลัดหลงมา ในขณะที่อีกหลายคนมองว่าเรือเหล่านี้ถูกใช้ในการขนส่งศพที่ติดเชื้อนั่นเอง

 

2.สามกะลาสีใหม่ที่พบกับโศกนาฏกรรมทันทีที่ออกเดินเรือ

a99534_20130907-004208

ในเดือนเมษายน 2550 เรือที่มีชื่อว่า Kaz II ได้ออกเดินทางไปตามชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลียพร้อมกับกะลาสีสามคนที่เพิ่งออกเดินเรือเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม หน่วยเฝ้าตรวจตราทางอากาศกลับพบว่าเรือลำดังกล่าวล่องลอยอย่างไร้จุดหมายและเมื่อเรือเข้าเทียบท่าก็กลับไม่มีใครพบร่องรอยของกะลาสีทั้งสามคน

หลายคนเชื่อว่าชายทั้งสาม ซึ่งได้แก่ Des Batten และสองพี่น้อง Peter และ John Tunstead ได้ถูกฆ่าตายโดยพ่อค้ายาหรือไม่ก็โจรสลัด ในขณะที่อีกหลายคนกลับรู้สึกว่าชายทั้งสามได้จงใจหายตัวไปด้วยหวังเงินประกัน อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ แห่งเมืองทาวส์วิลล์ รัฐควีนแลนด์ ได้ทำให้การคาดเดาต่างๆ นานาสิ้นสุดลง โดยได้ประกาศว่าชายทั้งสามคนถึงแก่ความตายเนื่องจากอุบัติเหตุที่เหนือความคาดหมาย

Michael Barnes เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเชื่อว่ากะลาสีผู้ไร้ประสบการณ์ทั้งสามประสบกับโศกนาฏกรรมในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากออกเดินเรือ โดยเขาคาดว่าหนึ่งในสองพี่น้อง Tunstead  ได้พลัดตกจากเรือในขณะที่พยายามปลดสายเบ็ดซึ่งมาพันรอบใบพัดเรือ พี่ชายของเขาได้พยามที่จะช่วยชีวิตน้องชายแต่กลับพลัดตกเรือไปอีกคน Batten จึงตัดสินใจกางใบเรือเพื่อที่จะได้หันเรือกลับไปช่วยเพื่อนทั้งสองแต่แล้วกระแสลมกลับเปลี่ยนทิศส่งผลให้เรือส่ายไปมาจนเขาพลัดตกจากเรือเช่นกัน

“เมื่อชายทั้งสามคนตกจากเรือ มันเป็นไปได้ยากมากที่พวกเขาจะสามารถกลับขึ้นเรือได้อีก” Barnes กล่าว “ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที จุดจบของพวกเขาก็มาถึง”

 

3.เรือร้าง “ซึ่งไม่มีวันจม”ที่ลอยลำอยู่ใกล้ชายฝั่งของประเทศฟิจิ

a99534_97

เรือลำหนึ่งถูกพบลอยลำอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งของประเทศฟิจิโดยปราศจากลูกเรือ

ในปี 2498 ผู้คนจำนวน 25 คน บนเรือ MV Joyita ได้หายสาบสูญไปอย่างเป็นปริศนาในขณะที่เรือลอยลำอยู่บริเวณ 300 ไมล์ทะเล มุ่งหน้าจากเมืองอาเปีย ประเทศซาเมา ไปยังหมู่เกาะโตเกเลา

เช่นเดียวกับเรือไททานิค เรือ Joyita ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ชื่อว่าไม่มีวันจม โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2498 เรือลำดังกล่าวถูกพบในสภาพทรุดโทรม ภายในเรือเต็มไปด้วยท่อสนิมเขรอะกับวิทยุ 1 เครื่อง ที่สามารรับส่งสัญญาณได้ในระยะ 2 ไมล์เท่านั้น เพราะมีการเดินสายไฟที่ผิดพลาด

ทั้งๆที่เรือ Joyita ถูกออกแบบมาให้ประกอบไปด้วยทุ่นลอยน้ำชั้นยอดซึ่งทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่เรือจะจม แต่เพราะเหตุใดในขณะที่พบเรือลำดังกล่าวกลับไม่พบลูกเรือ ทิ้งปริศนาให้แก่บรรดานักสำรวจว่าเพราะเหตุใดลูกเรือเหล่านั้นจึงไม่อยู่บนเรือเพื่อรอคอยการช่วยชีวิต

นอกจากนี้ สมุดปูมเรือ เครื่องวัดระยะทาง(sextant) นาฬิกากลที่มีความเที่ยงตรงสูง(โครโนมิเตอร์) และอุปกรณ์นนำทางอย่างอื่น รวมถึงปืนของกัปตัน Dusty Miller ได้หายไปจากเรือ ยิ่งไปกว่านั้น กล่าวกันว่ามีการพบกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ที่ข้างในมีเครื่องฟังเสียงหัวใจ(stethoscope) มีดผ่าตัด และผ้าพันแผลเปื้อนเลือดอยู่บริเวณดาดฟ้าเรือลำดังกล่าว

คำถามก็คือเกิดอะไรขึ้นกับผู้โดยสารและลูกเรือบนเรือ Joyita? David Wright นักวิชาการแห่งเมืองอัคแลนด์กล่าวว่ามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีน้ำรั่วเข้ามาในเรือลำดังกล่าวผ่านทางท่อในระบบทำความเย็นของเครื่องยนต์ ซึ่งกว่าจะมีคนสังเกตเห็นปัญหาดังกล่าวก็ช้าเกินไปเสียแล้ว ส่งผลให้ผู้คนบนเรือตัดสินใจสละเรือและหนีไปยังแพชูชีพ

ผู้คนบนเรือได้พยามใช้วิทยุส่งสัญญาณเมเดย์ขอความช่วยเหลือแต่วิทยุกลับไม่ทำงาน David เชื่อว่าลูกเรือและบรรดาผู้โดยสารจึงทำได้เพียงนั่งอยู่บนแพชูชีพรอคอยการช่วยเหลือจากกองทัพอากาศของนิวซีแลนด์ซึ่งไม่มีวันมาถึง ส่งผลให้พวกเขาค่อยๆ จมน้ำตายทีละคนหรือไม่ก็ถูกเหล่าฉลามฆ่าตาย

 

4.เรือสัญชาติจีนที่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ากบฏ

a99534_20140221-000220

ในปี 2546 เรือที่มีชื่อว่า The High Aim 6 (Haian liuhao 海安六號) ถูกพบลอยเคว้งคว้างอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย ถึงแม้จะมีการทุ่มเทกำลังค้นหาอย่างหนักแต่กลับไม่พบลูกเรือของเรือลำดังกล่าว รวมทั้งไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเหล่านั้น

เรือ The High Aim 6 (Haian liuhao 海安六號) ถูกพบอยู่ราวบริเวณ 3,500 ไมล์ทะเล จากหมู่เกาะมาแชลซึ่งอยู่ระหว่างปาปัวนิวกินีและฮาวาย หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของเรือได้แจ้งว่าเรือลำดังกล่าวหายสาบสูญไปเมื่อเขาไม่สามารถติดต่อกับกัปตันได้ ทั้งนี้ หลักฐานเดียวที่พอจะแสดงให้เห็นว่าบนเรือมีลูกเรือกี่คนนั้นก็คือจำนวนของแปรงสีฟันที่ถูกพบในห้องพักของเรือ

ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เรือลำดังกล่าวถูกพบ กลับมีสายเรียกเข้าจากประเทศอินโดนีเซียมายังเรืออยู่เป็นระยะๆ โดยสายดังกล่าวโทรจากมือถือของวิศวกรประจำเรือ ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบบันทึกการโทรดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของไต้หวันเชื่อว่ามีการก่อกบฏขึ้นบนเรือ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศอินโดนีเซียได้เข้าจับกุมลูกเรือของเรือ The High Aim 6 (Haian liuhao 海安六號) อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถติดตามตัวและจับชายผู้นั้นได้เพียงแค่คนเดียว  โดยลูกเรือคนดังกล่าวสารภาพว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2545 บรรดาลูกเรือได้ทำการก่อกบฏและฆ่ากัปตันพร้อมด้วยวิศวรประจำเรือ จากนั้นพวกเขาก็ได้ยึดเรือและเดินทางไปยังบ้านเกิด ทั้งนี้ การก่อกบฏครั้งนี้มีมูลเหตุจูงใจมาจากเรื่องอะไรนั้นยังไม่มีใครทราบเป็นที่แน่ชัด

 

5.เรือบรรทุกฝูงหนูกินเนื้อที่มุ่งหน้าไปยังสหราชอาณาจักร

a99534_exploring-canadian-arctic

ในปี 2556 ได้มีการค้นพบเรือที่มีชื่อว่า Lyubov Orlova ซึ่งลอยลำอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นเวลากว่าหนึ่งปี โดยภายในเรือลำดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยบรรดาหนูที่ได้กัดกินกันเองเพื่อความอยู่รอดและมีความเป็นไปได้สูงว่าเรือลำดังกล่าวนั้นมุ่งหน้าไปยังสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ เรือ Lyubov Orlova มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านดอลล่าห์ในตลาดซื้อขายเศษเหล็กจึงทำให้เรือลำดังกล่าวเป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดานักล่าซากเรือ โดยในปี 2553 เจ้าของเรือได้หลบหนีไปเมื่อเขาไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้และจ่ายค่าจ้างให้แก่บรรดาลูกเรือ เรือ Lyubov Orlova จึงถูกทิ้งไว้ที่อ่าว เซนต์ จอห์น มลรัฐนิวฟาวแลนด์ เป็นเวลานานกว่าสองปี ต่อมาในเดือนมกราคม 2556 เรือลำดังกล่าวก็ถูกขายให้กับสาธารณรัฐโดมินิกันในฐานะเศษเหล็ก อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นำเรือออกจากฝั่งเรือก็เกิดรอยแยกและถึงแม้จะได้มีการซ่อมแซมแล้วแต่รอยดังกล่าวก็แตกขึ้นมาอีก เรือ Lyubov Orlova จึงถูกทิ้งไว้กลางน่านน้ำสากล

เป็นเวลายาวนานกว่าหนึ่งปีที่เรือลำดังกล่าวลอยลำโดยไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ จะมีก็แต่เพียงฝูงหนูที่ขยายพันธุ์และกินกันเองเพื่อให้มีชีวิตรอด

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโชคดีของสหราชอาณาจักรที่เรือ Lyubov Orlova ไปไม่ถึงฝั่ง “ผู้เชี่ยวชาญของเราเชื่อว่าเรือลำดังกล่าวได้จมลงไปแล้ว” Chris Reynolds หัวหน้าหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งของไอริชกล่าว “เราได้ทำการหารือกับประเทศอังกฤษ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ซึ่งเราต่างก็ดีใจที่มาความเป็นไปได้ว่าเรือ Lyubov Orlova จมลงไปแล้ว ”

 

โปรดติดตามตอนต่อไป…

แหล่งที่มา : www.oddee.com